วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ข้อมูลฟุตบอลหมู่หงส์แดง ลิเวอร์พูลขนองจบลงการต่อสู้พรีเมียร์ลีกที่ผ่านมา

พวกพาเลซพลิกแซงหักปีกหงส์แดง3-1




ซึ่งหลังจากที่วิเคราะห์ผลบอลเหล่าหงส์แดง ยังโชว์ฟอร์มแย่ๆ ต่อเนื่อง ภายหลังที่อุตส่าห์ได้ แลมเบิร์ต ที่ยิงให้คณะนำก่อนในสองนาทีแรก แต่สุดท้าย ทีมพาเลซ นั้นรัวทีเดียวสามลูกรวดพลิกกลับมาคว้าชัยไป 3-1 ทำให้อันดับไปรั้งที่ 12 ของลีกเรียบร้อย

เพราะที่การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014-2015 ที่สนาม เซเฮิร์ส พาร์ค  กรุ๊ปคริสตัล พาเลซ ต้อนรับการมาเยือนของ พวกหงส์แดง ลิเวอร์พูล

ซึ่งในนาทีที่ 2 แฟนๆ เจ้าถิ่นต้องถึงกับช็อก ภายหลัง เหล่าคริสตัล พาเลซ นั้นต้องมาเสียประตูไปก่อน จากจังหวะที่ อดัม ลัลลาน่า เปิดข้ามแนวรับให้ ริคกี้ แลมเบิร์ต หนีการประกบ ก่อนจะพักบอลแล้วซัดเรียดพ้นมือ จูเลี่ยน สเปโรนี่ เข้าไป ทีมลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0

ต่อเนื่องมาถึงนาทีที่ 17 คราวทีมพาเลซ ก็ได้เฮบ้างจนถึงมาตามตีเสมอสำเร็จเป็น 1-1 จนถึง ยานนิค โบลาสซี่ ลากหนีแนวรับ คณะหงส์แดง ก่อนจะปลงใจซัดเต็มข้อด้วยขวาระยะ 25 หลา บอลเรียดหนีมือ ซิมง มินโญเลต์ พุ่งชนเสากระดอนออกมา แต่ลูกยังเข้าทาง ดไวท์ เกล วิ่งมาซ้ำจ่อเข้าไปได้สำเร็จ

ในนาทีที่ 34 พวกหงส์แดง นั้นเกือบได้ประตูออกนำอีกครั้ง คราวนี้ โจ อัลเลน ครอสจากฝั่งซ้ายไปให้ ริคกี้ แลมเบิร์ต ที่อยู่เสาไกลได้โอกาสขึ้นโขกคนเดียวจ่อๆ แต่โชคไม่ดีบอลดันหลุดกรอบออกไปนิดเดียว

นาทีที่ 36 ฝ่ายพาเลซ นั้นต้องถอดเอา ดาเมี่ยน เดลานี่ย์ ที่ได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องส่ง เบรเด้ ฮันเกลันด์ ลงมาดูแลเกมรับของเหล่าแทน

และในช่วงท้ายครึ่งแรกไม่มีประเติมเพิ่ม หมดเวลาทั้งสองทีมเสมอกันไปก่อน 1-1

ซึ่งนาทีที่ 48 ทางด้านฝ่ายลิเวอร์พูล นั้นก็มาได้ลุ้นจากฟรีคิกระยะ 30 หลา สตีเว่น เจอร์ราร์ด รับหน้าที่ซัดแต่บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปเสียก่อน

ในนาทีที่ 53 ตัวของมาร์ติน สเคอร์เทล มาโดนใบเหลือเลื่องงเป็นคนแรกของเกม โทษฐานเจ้าตัวเข้าไปดึงแขนของ มารูยาน ชามัคห์ เพื่อเป็นการขัดขวาง

นาทีที่ 61 ฆาบี มานกิโย่ ต้องมารับใบเหเอิกเกริกง หลังเจตนาไปดึง ชามัคห์ ที่หน้าเขตโทษ

ด้วยกันในนาทีที่ 71 ฝ่ายหงส์แดง นั้นได้ตัดสินใจถอด อดัม ลัลลาน่า ออก แล้วส่ง ฟาบิโอ บอรินี่ ลงสนามเพื่อลุ้นทำประตูให้หมู่เพิ่ม

ต่อมาในนาทีที่ 74 พวกลิเวอร์พูล นั้นต้องถอด โจ อัลเลน ที่มีปัญหาเเอิกเกริกกออกบนศีรษะที่แตกมาจากครึ่งแรก โดยเปลี่ยนเอา เอ็มเร่ ชาน ลงสนามมาช่วยเกมแดนกลางแทน ขณะที่ กลุ่มพาเลซ ก็ส่งให้ เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ ลงสนามเป็นคนที่สอง เพราะว่าเปลี่ยนเอา เจสัน พันเชี่ยน ออกไป

พร้อมด้วยตราบถึงนาทีที่ 78 แฟนบอลพวกคริสตัล พาเลซ ก็ได้เฮกันทั้งสนามตราบใดกลุ่มมาทำประตูที่สองสำเร็จ จากจังหวะที่บอลกำลังลอยกลางอากาศ เดยัน ลอฟเรน ที่ตามประกบ ยานนิค โบลาสซี่ จากริมเส้นไปล้มแล้วบอลตกเข้าหัวพอดีให้ดาวเตะ กลุ่มพาเลซ เลี้ยงหนีไปได่ ก่อนเจ้าตัวจักตบเข้ากลางให้ โจ เลดลี่ย์ วิ่งมาซัดตรงกลางลอดตัว ซิมง มินโญเลต์ เข้าไป เจ้าถิ่นพลิกขึ้นนำ 2-1

ต่อมาในนาทีที่ 81 สถานการณ์ยังเป็นใจให้เจ้าถิ่นต่อเนื่อง คราวนี้กลุ่มมาได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษ ไมล์ เยดินัค วิ่งมาปั่นด้วยขวา บอลเลี้ยวข้ามกำแพง ก่อนจะอ้อมหนีมือ มินโญเลต์ เข้าไปอย่างสวยงาม หมู่คริสตัล พาเลซ ได้นำเพิ่มอีกเป็น 3-1

นาทีที่ 86 ทีมพาเลซ ตัดสินใจถอด ยานนิค โบลาสซี่ ที่เกมนีทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมออกไปพักท่ามกลางเสียงปรบมือจากแฟนๆ ในสนาม ก่อนจักให้ แบร์รี่ แบนแนน ลงมาเล่นแทน

เข้าสู่ช่วงท้ายเกมทั้งสองเหล่าเกือบมีลุ้นได้ประตูกันหลายครั้งแต่ก็พลาดไป สุดท้ายหมดเวลา กรุ๊ปคริสตัล พาเลซ ได้เปิดบ้านเอาชนะ เหล่าลิเวอร์พูล ไปได้สำเร็จผลบอล 3-1

นั่นทำให้ เหล่าพาเลซ ได้เก็บเพิ่มเป็น 12 คะแนน ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 15 ของตาราง ส่วน ทีมหงส์แดง จากความพ่ายจำนนนัดนี้ทำให้กลุ่มตกมาอยู่อันดับ 12 โดยมีอยู่แค่ 14 คะแนน เท่านั้น

มาดูบัญชีชื่อผู้เล่น คริสตัล พาเลซ 4-4-1-1 :

  1. จูเลี่ยน สเปโรนี่ 
  2. มาร์ติน เคลลี่
  3. สก็ตต์ แดนน์
  4. ดาเมี่ยน เดลานี่ย์ เปลี่ยนตัว เบรเด้ ฮันเกลันด์ ลงมาในนาทีที่ 36
  5. โจเอล วอร์ด 
  6. เจสัน พันเชี่ยน เปลี่ยนตัว เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ ลงมาในนาทีที่ 76
  7. ไมล์ เยดินัค
  8. โจ เลดลี่ย์
  9. ยานนิค โบลาสซี่ เปลี่ยนตัว แบร์รี่ แบนแนน ลงมาในนาทีที่ 86
  10. มารูยาน ชามัคห์ 
  11. ดไวท์ เกล


ผู้เล่นสำรอง

  1. เวย์น เฮเนสซี่ 
  2. วิลฟรีด ซาฮา 
  3. เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ 
  4. แอนดรูวส์ จอห์นสัน


มาดูระเบียนผู้เล่น เหล่าลิเวอร์พูล 4-2-3-1 :

  1. ซิมง มินโญเลต์ 
  2. ฆาบี มานกิโย่
  3. มาร์ติน สเคอร์เทล
  4. เดยัน ลอฟเรน
  5. เกล็น จอห์นสัน 
  6. โจ อัลเลน เปลี่ยน เอ็มเร่ ชาน ลงมาในนาทีที่ 74
  7. สตีเว่น เจอร์ราร์ด 
  8. ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
  9. ฟิลิปป์ คูตินโญ่
  10. อดัม ลัลลาน่า เปลี่ยน ฟาบิโอ บอรินี่ ลงมาในนาทีที่ 71 
  11. ริคกี้ แลมเบิร์ต


ผู้เล่นสำรอง

  1. แบร๊ด โจนส์ 
  2. โคโล่ ตูเร่ 
  3. อัลแบร์โต้ โมเรโน่ 
  4. ลูคัส เลว่า 
  5. ลาซาร์ มาร์โควิช


กรรมการผู้ตัดสิน : โจนาธาน มอสส์

ติดตามชมดูคลิป ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก


เดอะคล็อปป์ได้โผล่ชื่อนั่งแท่นกุนซือหงส์แทนบีร็อด




ซึ่งบีร็อด นั้นคงจักได้เก้าอี้ร้อน ภายหลังที่เจอร์เก้น คล็อปป์ ปรากฏชื่อเตรียมนั่งแท่นบัลลังก์กุนซือใหม่ เหล่าหงส์แดง หลังผลงานโคตรแย่ เก็บชัยได้แค่ 2 นัดจาก 12 เกม

พร้อมทั้งก็ดูเหมือนขาเก้าอี้กุนซือของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการกรุ๊ป ลิเวอร์พูล สโมสรชั้นนำแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จักเริ่มสั่นคลอนเสียแล้ว ครั้งล่าสุดมีรายงานว่า ทีมหงส์แดง ได้วางตัว เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ของ คณะโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เหล่าดังแห่งเวที บุนเดสลีกา เยอรมัน เข้ามาเสียบตำแหน่งแทน หลังจากที่ บีร็อด นั้นเพิ่งพาฝ่ายบุกไปพ่ายแพ้ กลุ่มคริสตัล พาเลซ ที่ ถิ่นเซลเฮิร์ทส์ พาร์ค 1-3 ครั้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา วันที่ 23 พฤศจิกายนที่ทะลุมา

ซึ่งตารางบอลเหล่าหงส์แดง นั้นได้ออกสตาร์ทฤดูกาล 2014 - 2015 ได้อย่างย่ำแย่ เก็บชัยชนะได้ปาง 2 นัดเท่านั้นจากเกมลีก 12 นัดหลังสุด แถม 3 นัดล่าสุดพ่ายแพ้รวดทั้งหมด รั้งอยู่ที่ 12 ของตาราง แข่ง 12 นัด มี 14 แต้ม

นั่นจึงทำให้แฟนๆ ชาวเดอะ ค็อป ด้วยกันเหล่าบรรดาเกจิลูกหนังวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะว่าล่าสุดมีรายงานเกิดขึ้นว่าทางบอร์ดบริหารของ ฝ่ายลิเวอร์พูล ได้วางแผนทาบทาม คล็อปป์ เข้ามาทำหน้าที่แทน ร็อดเจอร์ส หลังเจ้าตัวนั้นเคยออกมายอมรับว่าสนใจที่จักเข้ามาทำงานใน อังกฤษ

พร้อมกับที่ก่อนหน้านี้ กุนซือใหญ่ทัพ พวกเสือเหฟุ้งเฟื่องง ก็ได้เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องทำงานในแดนผู้ดีเอาไว้ว่า ผมคิดว่า อังกฤษ เป็นที่เดียวเท่านั้นที่ผมควรไปทำงาน ถัดจาก เยอรมัน ผมคิดว่า อังกฤษ นี่แหละเหมาะสมที่สุดแล้ว ก็เพราะว่ามันเป็นประเทศเดียวที่ผมรู้จักภาษา ซึ่งการทำงานของผมมันจำเป็นต้องใช้ภาษาอย่างมาก พร้อมกับถ้าเกิดมีใครติดต่อผมมา มันก็น่าที่จะลองคุยดูนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น